เรื่องโดย : Atsushi Matsubara
เรียบเรียงโดย :ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat
22 มิถุนายน 2013 ยูเนสโก (องค์การสหประชาชาติการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม) มีการลงทะเบียนภูเขาฟูจิในญี่ปุ่นให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก มรดกโลก หมายถึง ทรัพย์สินที่มี "คุณค่าสากลที่โดดเด่น" ทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรม ที่มนุษยชาติควรจะใช้ร่วมกัน ตัวอย่างเช่น มรดกโลก 5 อย่างในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม 3 แห่งได้แก่「スコータイ遺跡 Sukootai-iseki ซากโบราณสุโขทัย」,「アユタヤ遺跡 Ayutaya-iseki ซากโบราณอยุธยา」 และ 「バーンチエン遺跡 Baanchien-iseki ซากโบราณบ้านเชียง」 เป็นมรดกทางธรรมชาติ 2 แห่งคือ「ドンパヤーイェン•カオヤイ森林保護区 Donpayaaien•kaoyai-shinrin hogoku ผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่」,「トゥンヤイ•フワイ・カーケン野生生物保護区 Tunyai•fuwai•kaaken-yasee seebutsu hogoku เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้ง」
ที่ประเทศญี่ปุ่นเองนั้น มีสิ่งที่เป็นมรดกโลกอยู่ถึง 17 อย่างด้วยกัน (รวมภูเขาไฟฟูจิ) ในที่นี้ เราจะแนะนำเพียงบางส่วนเท่านั้น
1. 「富士山 (Fujisan) ภูเขาไฟฟูจิ」
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุด และเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่เหตุผลในการได้รับการลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกนั้น ไม่ใช่เพราะความสูงและความงดงามแต่อย่างใด หากแต่เป็นเพราะว่าภูเขาไฟฟูจิได้รับเกียรติทางวัฒนธรรมให้ไปปรากฏอยู่ตามผลงานทางศิลปะหรือวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาอีกด้วย
ทุกๆปีช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลปีนภูเขาฟูจิ ถึงแม้ในฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 30 องศา แต่ด้วยความสูงที่มีถึง 3776 เมตร ก็ทำให้ยอดภูเขามีอุณหภูมิต่ำแทบติดลบ จนทำให้คนที่ปีนหลายๆคนป่วยไปตามๆกัน สภาพอากาศก็แปรปรวนบ่อย เรียกได้ว่าการไปปีนภูเขาฟูจินั้น ไม่สามารถเดินชิลๆสบายใจได้อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลก ที่พร้อมจะมาท้าทายด้วยการพิชิตภูเขาไฟฟูจินี้ให้จงได้ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับภาพวิวจากบนยอดภูเขาอันสวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพพระอาทิตย์ขึ้น「ご来光 Goraikoo ภาพพระอาทิตย์ขึ้น」
2. 「京都の文化財 (Kyooto no bunkazai) ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จังหวัดเกียวโต」
ที่ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีวัดอยู่ตามจังหวัดต่างๆเหมือนประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดเกียวโตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในอดีต ก็เป็นแหล่งรวมวัดที่สวยงามไว้มากมาย ในขณะที่วัดไทยมักเป็นโทนสีทองหรือแดง ในส่วนของวัดในประเทศญี่ปุ่นนั้น จะค่อนข้างใช้โทนสีน้ำตาลและดำซะส่วนใหญ่ เว้นแต่「金閣寺Kinkakuji ตำหนักทอง」 ซึ่งเดิมทีมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า「鹿苑寺Rokuonji แต่ด้วยภาพตำหนักที่งามเรืองรองทองอร่าม จึงนิยมเรียกกันว่าตำหนักทองจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ก็ยังมี 「銀閣寺 Ginkakuji ตำหนักเงิน」กำเนิดขึ้นช่วงกลางสมัยมุโรมาจิเป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมของเขตฮิกาชิยามะ ซึ่งคู่กับ「金閣寺Kinkakuji ตำหนักทอง」กำเนิดขึ้นช่วงต้นสมัยมุโรมาจิเป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมของเขตคิตะยามะ หรือวัดที่อยู่บนภูเขาอย่าง「清水寺Kiyomizudera วัดน้ำใส」หรือวัดที่ถูกวาดเป็นภาพอยู่หลังเหรียญสิบเยนอย่าง「平等院byoodooin วัดเบียวโดอิน」นอกจากนี้ที่เกียวโตก็ยังมีทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย
3. 「琉球王国の遺産群 (Ryuukyuu ookoku no isangun) กลุ่มมรดกของราชอาณาจักร ริวคิว」
เป็นเกาะที่อยู่ในภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในจังหวัดโอกินาว่า เคยเป็นประเทศที่เรียกว่าราชอาณาจักรริวคิวในสมัยก่อน ที่ตั้งของปราสาทและสถานที่ทางศาสนาหลายแห่งทั่วเกาะได้กลายเป็นมรดกโลก ริวคิว มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับอิทธิพลจากทั้งจีนและญี่ปุ่นในขณะที่ความสัมพันธ์ได้รับการหล่อเลี้ยงมาอย่างลึกซึ้ง นับเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจในด้านวัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่าง แม้แต่ภาษาพูดและอาหารการกิน อาจจะเป็นเพราะสภาพภูมิอากาศที่ไม่รุนแรงตลอดทั้งปีของภูมิภาคนี้ บุคลิกภาพของคนที่นี่ จึงมีลักษณะอ่อนโยนมีอัธยาศัยดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเสมอคล้ายคนไทย
「姫路城 Himejijo ปราสาทฮิเมจิ」 「白川郷 Shirakawagoo หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ」
มรดกทางวัฒนธรรมในที่อื่น ๆ ก็ยังมีอีกมากมาย อย่างเช่น「姫路城 Himejijo ปราสาทฮิเมจิ」ที่สวยงามที่สุดในหมู่ปราสาทญี่ปุ่นอื่นๆ หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงของ「白川郷 Shirakawagoo หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ」
「原爆ドーム Genbaku doomu โดมรำลึกเหตุระเบิดปรมาณู」「厳島神社Itsukushima-jinja ศาลเจ้าอิซึคุชิมะ」
สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่ทำจากไม้เรียงกัน「原爆ドーム Genbaku doomu โดมรำลึกเหตุระเบิดปรมาณู」และ「厳島神社Itsukushima-jinja ศาลเจ้าอิซึคุชิมะ」ที่จังหวัดฮิโรชิมา รวมเป็น 13 แห่ง
「屋久島 Yakushima ยะคุชิมะ」 「知床 Shiretoko ชิเระโทโกะ」
นอกจากนั้นก็สถานที่ที่เป็นมรดกทางธรรมชาติที่มีทั้งหมด 4 แห่ง เช่น「屋久島 Yakushima ยะคุชิมะ」ที่มีต้นซีดาร์มีอายุมากกว่า 1000 ปี และที่ฮอกไกโดเช่น「知床 Shiretoko ชิเระโทโกะ」
มีการกำหนดอย่างเป็นทางการแล้วว่าวีซ่าท่องเที่ยวของไทยได้รับการยกเว้นเริ่มต้นที่ 1 กรกฎาคม 2556 (สามารถอยู่ได้ 15 วัน) หากท่านมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมไปเที่ยวชมสถานที่ๆเป็นมรดกโลกของประเทศญี่ปุ่นที่กล่าวมาด้วยนะครับ
ขอบคุณรูปภาพประกอบ
1. http://www.517life.com/scenic/show_55.html
2. http://tabisuke.arukikata.co.jp/ds/r/207/r/20026/r/20704/8/DomesticHeritage/847/p/1/
3. http://testa.ti-da.net/d2010-09.html
4. http://sekaijapan.web.fc2.com/
5. http://item.rakuten.co.jp/jigsawclub/c23-549/
6. http://ganref.jp/m/tobimonoya/portfolios/photo_detail/ebb85dc25d553fc64d01578c180666ee
7. http://www.its-mo.com/c/%E5%8E%9F%E7%88%86%E3%83%89%E3%83%BC%E3%83%A0/DIDX_ZPOI,00000000000000678083/
8. http://dictionary.blog81.fc2.com/page-6.html
9. http://dlift.jp/photo/photoDisplayWorldHeritage177
10. http://sekaijapan.web.fc2.com/page1.html