หน้าแรก  |   เกี่ยวกับเรา  |   หลักสูตรที่เปิดสอน  |   ตารางเรียนล่าสุด  |   ติดต่อเรา
English  EN  Thai  TH 

「結婚式」(Kekkonshiki) งานแต่งงาน


takako

เรื่องโดย : Ueki Takako
เรียบเรียงโดย :ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat

banner


 

kekkonshiki1

     วันก่อนดิฉันได้มีโอกาสไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนคนนึง หลังจากที่พักหลังๆไม่ค่อยได้ไปงานแต่งงานซะนาน  รู้สึกได้เลยว่า งานแต่งงานของประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น มีความแตกต่างกันอยู่มาก คุณผู้อ่านมีใครเคยเข้าร่วมงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นบ้างไหมคะ? อย่างเวลาที่เราไปงานแต่งงาน แม้จะเป็นงานในแบบของประเทศตัวเอง เราก็ไม่แน่ใจใช่ไหมล่ะคะ ว่า “แบบนี้โอเคแล้วหรือยังนะ...”  แล้วถ้าเป็นงานแต่งงานแบบประเทศอื่นๆล่ะคะ ไม่ยิ่งน่ากังวลใจเข้าไปใหญ่หรอคะ ดังนั้นวันนี้ดิฉันเลยอยากมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับงานแต่งงานแบบญี่ปุ่น ให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ

kekkonshiki2

ช่วงเวลาแต่งงานสุดฮิตของชาวญี่ปุ่นก็คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน - มิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน) ค่ะ เพราะไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป ส่วนมากก็จะจัดงานกันในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ นอกจากนี้ก็ยังมี  「大安 Taian วันมงคล」และ「友引Tomobiki วันดึงมิตรสหาย เป็นวันที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งในการจัดงานทั้งงานมงคลต่างๆ(เช่นงานแต่งงาน)เพราะเป็นการแบ่งปันความสุขไปยังญาติสนิทมิตรสหาย แต่ไม่ควรจัดงานอวมงคล(เช่นงานศพ)เพราะเป็นการพากันไปสู่สิ่งที่ไม่ดี」ที่เหมาะในการจัดงานอีกด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้เอง ในช่วงดังกล่าวค่าใช้จ่ายในการจัดงานก็จะสูงขึ้นมาก อีกทั้งบางสถานที่ๆมีคนนิยมไปจัดมากๆ ก็อาจจะมีการต่อคิวจัดงานกันกว่า 10 งานต่อ 1 วันเลยทีเดียวนะคะ ซึ่งเราก็จะพบเห็นเจ้าสาวแสนสวยหลายต่อหลายคนเลยค่ะ 555

kekkonshiki3

「大安カレンダー」Taian-karendaa ปฏิทินที่ระบุวันมงคล(大安)

     ในทางกลับกัน ช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการจัดงานแต่งงานอย่างช่วงฤดูร้อน (เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม) และฤดูหนาว (เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์) ก็จะเป็นที่รู้กันว่า ส่วนมากค่าใช้จ่ายในการจัดงานจะถูกลงมาก แล้วที่ประเทศไทยล่ะคะ มีช่วงเวลาสุดฮิตในการแต่งงานหรือเปล่าคะ? อาจจะเลือกวันที่เป็นฤกษ์ดีโดยที่ไม่เกี่ยวกับภูมิอากาศใช่ไหมล่ะคะ

kekkonshiki4

ห้องโถงของโรงแรม Westin Tokyo

 เอาล่ะค่ะ ทีนี้ทุกท่านคิดว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานและค่างานเลี้ยงรับรองแขกที่ประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่คะ?  ดูเหมือนว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวที่ประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นก็ต่างกันมากค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค แต่โดยทั่วๆไปถ้ามีผู้ร่วมงานประมาณ 70-80 คน ค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ที่ราวๆ 3 ล้านเยน - 3 ล้าน 5 แสนเยนค่ะ (ประมาณ 1 ล้านบาท)  ที่เมืองไทยถ้าจัดที่โรงแรมดีๆหน่อยก็คงแพงอยู่ไม่น้อย แต่ทุกคนคิดยังไงกับเรทที่ญี่ปุ่นคะ?  แต่อย่างไรก็ตามมี「ご祝儀 Go-shuugi การรับซองงานแต่ง」จากผู้ร่วมงานด้วย ดังนั้น ค่าใช้จ่ายจริงที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องออกก็อาจจะน้อยกว่านี้ค่ะ

kekkonshiki5

ซองเงินงานแต่งงานของไทย                               ซองเงินงานแต่งงานของญี่ปุ่น

     สำหรับซองเงินงานแต่งนั้น โดยทั่วไปถ้าเป็นงานของเพื่อนทั่วไปก็จะอยู่ที่ 3 หมื่นเยน (ประมาณ 1 หมื่นบาท) แต่บ้างก็ว่าเลข 3 เป็นเลขคี่ หมายถึง การไม่มีคู่ (ซึ่งอาจจะเป็นลางไม่ดีว่าจะต้องแยกกัน) บ้างก็ว่าเลข 2 ก็สื่อลางไม่ดีเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการใส่ซอง 2 หมื่นเยนก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เพราะบ้างก็เชื่อว่า 2 เท่ากับ คู่สามีภรรยา / คู่กัน ที่ประเทศไทยนิยมใช้ซองจากการ์ดเชิญใส่เงินกัน แต่ที่ญี่ปุ่นแขกต้องเตรียมซองไปเองนะคะ ถ้าทุกคนได้รับเชิญไปงานแต่งที่ประเทศญี่ปุ่น ก็อย่าลืมเตรียมหาซองด้วยนะคะ ในกรณีที่จะใส่เงิน 2 หมื่นเยน ก็แนะนำว่าให้ใส่ธนบัตรใบละหมื่น 1 ใบ และธนบัตรใบละ 5 พัน 2 ใบค่ะ ให้จำนวนธนบัตรเป็นเลขคี่ไว้ก่อน เป็นอันดีค่ะ

※ ว่ากันว่าในบางภูมิภาคอย่างฮอกไกโดหรือตะวันออกเฉียงเหนือจะทำเป็นระบบค่าเข้างาน ไม่ได้ใช้แบบซองงานแต่งก็มีนะคะ

 อนึ่ง ซองของประเทศญี่ปุ่นจะมีการประดับตกแต่งด้วยเชือกที่เรียกว่า「水引Mizuhiki 」ซึ่งสามารถแบ่งกว้างๆได้ 2 ชนิด คือ 

kekkonshi6

การผูกแบบ「結びきりMusubikiri」เหมาะสำหรับงานแต่งงาน


kekkonshi7

การผูกแบบ「蝶結び Choo musubi」เหมาะสำหรับงานอวยพรทั่วไป


     สำหรับงานแต่งงานนั้น ให้เลือกใช้แบบที่ผูกแล้วคลายไม่ได้อย่าง「結びきりMusubikiri จะสื่อความหมายว่าผูกพันธ์กันแล้วก็จะไม่แยกจากกัน」 ส่วนการผูกอีกแบบ คือ「蝶結び Choo musubiคลายง่ายผูกง่ายจะสื่อความหมายว่าอาจทำให้เกิดซ้ำเป็นครั้งที่สอง」 ไม่เหมาะกับงานแต่งงาน สำหรับซองเหล่านี้ก็มีหลายแบบ ตั้งแต่แบบที่ดูเรียบง่าย ไปจนถึงแบบที่หรูหราอลังการ อย่างไรก็ตามควรจะเลือกแบบให้เหมาะสมกับจำนวนเงินที่ใส่ด้วยนะคะ

kekkonshi8

ภายในซองเงินประกอบด้วย (ด้านซ้าย)เป็นซองด้านใน ด้านหน้าให้เขียนชื่อและจำนวนเงิน เมื่อใส่เงินแล้วนำไปใส่ซองสวย(ตรงกลาง)จากนั้น ซองสวย ตรงกลางด้านล่างให้เขียนชื่อผู้ส่งตรงแถบคาดกระดาษ ส่วน(ด้านขวา) คือ แถบกระดาษรัดซองสำรอง

kekkonshi9

「神前式 Shinzen shiki การแต่งงานแบบชินโต」


kekkonshi10

「教会式 Kyookai shiki การแต่งงานแบบคริสต์」


kekkonshi11

「人前式 Jinzen shiki การแต่งงานแบบต่อหน้าเครือญาติเพื่อนๆ」


     พิธีกรรมในการจัดงานก็มีหลายรูปแบบนะคะ ทั้งแบบชินโต แบบเข้าโบสถ์ และการแต่งงานแบบต่อหน้าเครือญาติเพื่อนๆ ลักษณะพิเศษอีกอย่างของการจัดงานแต่งงานที่ประเทศญี่ปุ่นก็คือ เราสามารถเลือกได้ตามใจว่าอยากจัดแบบไหนโดยไม่ต้องคำนึงถึงศาสนาค่ะ  การแต่งงานแบบชินโต ได้รับอิทธิพลจากศาสนาชินโต ส่วนใหญ่จะจัดขึ้นที่ศาลเจ้า (นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่มีห้องโถงงานแบบชินโตไว้สำหรับจัดงานแต่งงาน) ในงานแต่งงานแบบคริสต์ เป็นงานที่เลียนแบบงานแต่งงานของชาวคริสต์จะจัดขึ้นในอาคารแนวคริสตจักรที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสำหรับงานแต่งงาน (แม้ว่าบางคนจะแต่งงานกันในโบสถ์คริสต์จริงๆ) และการแต่งงานแบบต่อหน้าเครือญาติ คือ ​​แทนที่จะสาบานที่จะแต่งงานกับเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็เป็นการสาบานแต่งงานต่อหน้าพ่อแม่ ผู้ปกครอง และญาติมิตร เพื่อนฝูง จำนวนของชาวคริสต์ในประเทศญี่ปุ่นมีอยู่เพียงประมาณ 1% แต่คนที่ต้องการที่จะแต่งงานในโบสถ์พิธีจำนวนมากและคงจะเป็นความปรารถนาของเจ้าสาวซะส่วนใหญ่

kekkonshi12

ทางเดินส่งตัวเจ้าสาวของโบสถ์ภายในโรงแรมจินซังโซ

     ในพิธีกรรมแบบคริสต์นั้น จะมีขั้นตอนหนึ่งที่เรียกว่า การส่งตัวเจ้าสาว คือ เจ้าสาวจะควงแขนคุณพ่อของเธอ และค่อยๆเดินไปตามพรมในโบสถ์เพื่อไปหาเจ้าบ่าว ภาพเหล่านี้ เวลาดิฉันเห็นทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลทุกที T . T 

kekkonshi13

「タイの結婚式 Tai no kekkon shiki การแต่งงานแบบไทย」

     ส่วนการแต่งงานในแบบไทยๆนั้น ภาพที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยื่นมือรอให้แขกที่มาร่วมงานรดน้ำสังข์ ช่างเป็นภาพที่งดงาม และทำให้ดิฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากเช่นกัน

     เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ แขกที่มาร่วมงานก็จะลงชื่อและมอบซองเงินที่เตรียมมา จากนั้นก็จะถึงเวลางานปาร์ตี้เฉลิมฉลอง ซึ่งตรงนี้นี่เองที่พบความแตกต่างระหว่างงานปาร์ตี้แบบไทยกับแบบญี่ปุ่น เนื่องจากถ้าเป็นแบบญี่ปุ่นจะมีการกำหนดตายตัวว่างานปาร์ตี้เริ่มกี่โมงเสร็จกี่โมง แต่พอไปงานปาร์ตี้แบบไทย ก็จะเกิดอาการงงๆว่า “เอ...เค้าจะเริ่มกันกี่โมง แล้วจะเสร็จกี่โมงกันนะ...” 5555

  แบบไทย แบบญี่ปุ่น
คู่บ่าวสาว

ยืนอยู่บนเวทีตลอดงาน

kekkonshi14

นั่งที่ๆจัดไว้ให้คู่บ่าวสาวโดยเฉพาะ

kekkonshi15

การเปลี่ยนชุด ไม่เปลี่ยนชุดในสถานที่จัดงาน

ส่วนใหญ่เปลี่ยนกันในงาน

kekkonshi16

เปลี่ยนชุดเป็น

kekkonshiki17

กิจกรรม แข่งร้องคาราโอเกะ?(555)

เพื่อนๆของคู่บ่าวสาวขึ้นกล่าวอวยพรหรือร้องเพลง หรือมีการแสดงชุดพิเศษ

ของชำร่วย

รับของชำร่วยจากทีมประชาสัมพันธ์ก่อนเข้างาน

kekkonshiki18

เจ้าหน้าที่ของสถานที่จัดงานเตรียมใส่ของขวัญในถุงกระดาษไว้ เมื่อเสร็จพิธีการคู่บ่าวสาวจะแจกของชำร่วยให้กับแขกแต่ละโต๊ะ (ของขวัญส่วนมากจะเป็นภาชนะต่างๆและขนม)

kekkonshiki19

kekkonshiki20

kekkonshiki21

ระยะเวลา อารมณ์ประมาณว่าไม่แน่ใจว่าเริ่มกี่โมงเสร็จกี่โมง ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง พิธีการจะระบุไว้อย่างชัดเจน 

kekkonshi22

สุดท้ายนี้ ก็เป็นเรื่องของการแต่งกายค่ะ เรื่องนี้ต้องระวังอย่างมากเลยนะคะ ทำไมน่ะหรอคะ? ก็เพราะว่าที่ญี่ปุ่นเวลาไปงานแต่งงานเราแต่งชุดสีดำไปได้นั่นเองค่ะ แต่ว่าสีขาวนั้นเป็นสีของเจ้าสาว ไม่ควรใส่ไปแข่ง 555 สรุปว่าควรหลีกเลี่ยงชุดสีขาวนะคะ แต่ที่ประเทศไทยจะใส่ชุดที่มีสีสดใส ส่วนสีขาวสามารถใส่ได้ แต่สีดำเป็นสีต้องห้ามใช่ไหมคะ? มีอยู่ครั้งนึงค่ะ ดิฉันกลับไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนที่ประเทศญี่ปุ่น เห็นผู้หญิงใส่ชุดดำทะมึนมากันเต็มงาน ก็ตกใจมากเลยค่ะ และก็คิดว่า เอ๊ะ! นี่คนญี่ปุ่นเราแต่งดำกันมากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย สรุปวันนั้น ดิฉันใส่สีชมพูเข้มไปอยู่คนเดียวค่ะคุณผู้อ่าน 555

     เขียนสรุปคร่าวๆออกมาวันนี้ เราก็พบความแตกต่างระหว่างงานแต่งงานของไทยกับญี่ปุ่นหลายอย่างเลยใช่ไหมล่ะคะ? สมมุติถ้ามีโอกาสได้ไปร่วมงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ อย่างลืมตรวจสอบความถูกต้องจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นอีกครั้งนะคะ ในทางกลับกัน ถ้ามีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่จะเข้าร่วมงานแต่งงานแบบไทย ก็อย่าลืมให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานแต่งงานแบบไทยที่เป็นประโยชน์แก่พวกเขาด้วยนะคะ รบกวนด้วยนะคะ ^^

 

ขอบคุณรูปภาพประกอบ

http://wedding.rakuten.co.jp/glossary/word/001001001

http://wedding.rakuten.co.jp/market-price/

http://www.kekkon-j.com/manual/syugi/

http://store.shopping.yahoo.co.jp/auro/0101580.html

http://zexy.net/mar/manual/kiso_style/

http://hotel-chinzanso-tokyo.jp/wedding/ceremony/chapel.html

http://division.dwr.go.th/writc/life/ww/water6.htm

http://www.jxhuanet.cn/dongguangjixian.htm

http://omotesando.anniversaire.co.jp/chapel_banquet/banquet/353.html

http://zexy.net/mar/manual/gift_kiso/chapter2.html

http://www.happo-en.com/wedding/index.php#/costumes/soga

http://www.westin-tokyo.co.jp/wedding/item/index.html

http://www.108gift.com/

http://www.topbridal.co.jp/SHOP/g26063.html

http://board.postjung.com/639446.html

 

 

ข้อมูลโดย :งานแต่งงาน,ญี่ปุ่นเออเร่อ,ภาษาญี่ปุ่น,สอนภาษาญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น




  • ผู้สนับสนุน, ภาษาญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี, สอนภาษาญี่ปุ่น, ฟรี, ญี่ปุ่น, เรียนญี่ปุ่น, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท
  • เว็บมินนะโนะคันจิ
  • Minna no Kanji
  • ผู้สนับสนุน, ภาษาญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี, สอนภาษาญี่ปุ่น, ฟรี, ญี่ปุ่น, เรียนญี่ปุ่น, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท
  • พบกับการ Review หนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้นร.สามารถเลือกหนังสือที่เหมาะกับตนเองได้
  • >>
  • ผู้สนับสนุน, ภาษาญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี, สอนภาษาญี่ปุ่น, ฟรี, ญี่ปุ่น, เรียนญี่ปุ่น, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท
  • THE GREEN RESIDENCE : RAMA9
  • มองหาที่พักที่ลงตัว : เดอะกรีน เรสซิเดนท : พระรามเก้า
  • ผู้สนับสนุน, ภาษาญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี, สอนภาษาญี่ปุ่น, ฟรี, ญี่ปุ่น, เรียนญี่ปุ่น, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท
  • เลือกเวลาเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง
  • คลิ้กที่นี่!!


โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท, เรียนญี่ปุ่น, ภาษาญี่ปุ่น, งานญีปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่น, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท, เรียนญี่ปุ่น, ภาษาญี่ปุ่น, งานญีปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น

หน้าแรก  |   เกี่ยวกับเรา  |   หลักสูตรที่เปิดสอน  |   ตารางเรียน  |   ติดต่อเรา    
©2013,JAT Japanese Language School, All Rights Reserved. โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น แจ๊ท, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น แจ๊ท